LGBTQIA+ คืออะไร เข้าใจทุกตัวอักษรในสายรุ้งแห่งความหลากหลาย
ความหลากหลายทางเพศไม่ใช่เรื่องใหม่ของมนุษย์ แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่ในทุกยุคสมัย เพียงแค่ในอดีตอาจยังไม่เปิดกว้างหรือยอมรับเท่าปัจจุบัน LGBTQIA+ จึงไม่ใช่เทรนด์หรือโรค แต่คือธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบมาตลอด บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจความหมายของแต่ละตัวอักษรใน LGBTQIA+ อย่างชัดเจน เข้าใจง่าย และร่วมเปิดใจยอมรับความแตกต่างอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น

LGBTQIA+ คืออะไร
LGBTQIA+ คือคำที่ใช้แทนกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งรวมถึงอัตลักษณ์ทางเพศที่หลากหลายมากกว่าชายหรือหญิงตามหลักชีววิทยา ในอดีต ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศมักถูกสังคมตีตรา กีดกัน และมองว่าเป็นสิ่งผิดปกติ แต่ความเป็นจริงคือความหลากหลายทางเพศมีอยู่มานานในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องใหม่หรือกระแสนิยมในปัจจุบัน เช่นเดียวกับกรณีของอีลีนอร์ ไรเคนอร์ในศตวรรษที่ 14 หรือชายรักชายในยุค 1950 สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าอัตลักษณ์ทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติที่ควรได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียมในสังคมปัจจุบัน
รู้จักความหมาย LGBTQIA+ แต่ละตัว
หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าตัวอักษรในคำว่า LGBTQIA+ หมายถึงอะไรบ้าง จริง ๆ แล้วแต่ละตัวแทนกลุ่มความหลากหลายทางเพศที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว มารู้จักกันทีละตัวเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
L — Lesbian
“เลสเบี้ยน” หมายถึงผู้หญิงที่มีความรู้สึกทางเพศหรือความรักต่อผู้หญิงด้วยกัน คำนี้มีที่มาจากเกาะ “เลสบอส” (Lesbos) ในกรีซ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของกวีหญิงชื่อ “แซปโฟ” (Sappho) ผู้แต่งบทกวีที่กล่าวถึงความรักระหว่างผู้หญิงด้วยกัน จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คำว่า “เลสเบี้ยน” ถูกใช้แทนผู้หญิงรักผู้หญิง และแพร่หลายในความหมายนี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน
G — Gay
เดิมทีคำว่า “เกย์” ในภาษาอังกฤษหมายถึงความสนุกสนานหรือความรื่นเริง แต่ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 20 ความหมายเริ่มเปลี่ยนไป ใช้เรียกผู้ชายที่มีความสนใจทางเพศต่อผู้ชายด้วยกัน และภายหลังผู้หญิงบางกลุ่มก็เริ่มใช้คำนี้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบัน “เกย์” กลายเป็นคำที่มีความหมายครอบคลุมสำหรับบุคคลที่รักเพศเดียวกัน โดยมักใช้กับผู้ชายเป็นหลัก แต่ก็สามารถใช้ในความหมายทั่วไปเพื่อรวมคนที่รักเพศเดียวกันได้ด้วยเช่นกัน
B — Bisexual
คำว่า “ไบเซ็กชวล” (Bisexual) มีรากมาจากคำว่า “Bi” ซึ่งแปลว่า “สอง” โดยในอดีตเคยใช้เรียกคนที่มีลักษณะทางกายภาพผสมทั้งเพศชายและหญิง (ซึ่งปัจจุบันเรียกว่าอินเตอร์เซ็กส์) ต่อมาความหมายได้เปลี่ยนไป ปัจจุบัน “ไบเซ็กชวล” หมายถึงคนที่มีความรู้สึกดึงดูดทางเพศหรือโรแมนติกต่อได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยไม่จำกัดอยู่ที่เพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น
Q — Queer
เดิมคำว่า “Queer” หมายถึง “แปลก” หรือ “ผิดปกติ” และเคยถูกใช้ดูหมิ่นผู้ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่ต่างจากบรรทัดฐานชาย-หญิง อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศได้ลุกขึ้นยึดคืนคำนี้และเปลี่ยนให้กลายเป็นคำที่แสดงถึงความภาคภูมิใจในตัวตน ปัจจุบัน “Queer” ใช้อธิบายบุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศหรือความรักที่ลื่นไหล ไม่จำกัดกรอบนิยามเพศใดเพศหนึ่ง เป็นการเปิดกว้างให้กับความหลากหลายในทุกมิติของเพศและความสัมพันธ์
I — Intersex
Intersex หมายถึงบุคคลที่เกิดมาพร้อมลักษณะทางเพศ (ทางกายภาพ เช่น โครโมโซม ฮอร์โมน หรืออวัยวะสืบพันธุ์) ที่ไม่สามารถจัดอยู่ในกรอบชายหรือหญิงได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิดหรือแสดงออกภายหลัง ปัจจุบัน Intersex ไม่ใช่ความผิดปกติ แต่เป็นความหลากหลายทางชีวภาพตามธรรมชาติของมนุษย์ และได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะอีกหนึ่งอัตลักษณ์ทางเพศที่ควรได้รับสิทธิและความเคารพเท่าเทียม
A — Asexual
Asexual คือบุคคลที่ไม่มีแรงดึงดูดทางเพศต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม ซึ่งอาจยังคงมีความรู้สึกรักหรือผูกพันทางอารมณ์ได้ตามปกติ คำนี้ถูกใช้ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 และในปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ทางเพศที่แท้จริงในกลุ่มความหลากหลายทางเพศ สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการทางเพศไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน และทุกอัตลักษณ์ล้วนมีคุณค่าในแบบของตัวเอง
+ — Plus
เครื่องหมาย ‘+’ ใน LGBTQIA+ เป็นตัวแทนของความหลากหลายทางเพศที่ขยายออกไปอย่างไม่จำกัด สื่อถึงอัตลักษณ์และรสนิยมทางเพศอื่น ๆ ที่อยู่นอกเหนือจากตัวอักษรหลัก ไม่ว่าจะเป็น Pansexual, Demisexual, Non-binary และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นสัญลักษณ์แห่งการเปิดรับและเคารพในตัวตนที่แตกต่างของทุกคนในสังคม โดยไม่มีข้อจำกัด
แหล่งที่มา : blog.cheewid.com