10 วิธีดูแลผิวกาย บอกลาสิวบนตัว
ปัญหาสิวอาจไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ อย่างที่คิด โดยเฉพาะ “สิว” ที่ไม่ได้เกิดแค่บนผิวหน้า แต่ยังลุกลามไปบนผิวกาย ต้นแขน และหลัง หรือที่เรียกกันว่า “Bacne” (Back + Acne) ซึ่งจัดการได้ยากกว่าสิวบนผิวหน้า ทำให้หลายคนเสียความมั่นใจ ไม่กล้าเปิดเผยผิวให้ใครเห็น ถ้ากำลังเผชิญกับสิวหลังหรือสิวตัวอยู่ล่ะก็ วันนี้เรามี 10 วิธีดูแลรักษาผิวกายให้ห่างไกลสิวมาฝากกัน รับรองได้เลยว่าเราได้บอกลาสิวบนตัวแน่นอน
ห้ามบีบสิวหรือรบกวนสิวจนอักเสบ
การพยายามบีบสิวหรือรบกวนสิวบ่อย ๆ ไม่ต่างอะไรกับการซ้ำเติมปัญหาสิว นอกจากจะเจ็บแล้ว ยังเสี่ยงเกิดแผลและนำไปสู่การติดเชื้อ ทำให้สิวหายยากกว่าเดิม ยิ่งสิวหลังและสิวบนตัวมักเป็นสิวที่ไม่มีหัว มีอาการปวด แต่กดหนองออกไม่ได้ การบีบหรือรบกวนสิวเหล่านี้จะเพิ่มความเจ็บปวดและอาการอักเสบไม่รู้จบ
ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการบีบสิวและปล่อยให้ร่างกายได้ต่อสู้กับเชื้อสิวเอง หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิว เช่น เจลแต้มสิวหรือครีมลดการอักเสบ เพื่อเร่งการรักษาและลดการระคายเคือง โดยไม่ต้องรบกวนสิว
อย่าทิ้งคราบเหงื่อไว้บนผิวนานเกินไป
เหงื่อเป็นเรื่องธรรมชาติ โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อนหรือหลังออกกำลังกาย การปล่อยให้เหงื่อแห้งบนผิวนานๆ จะทำให้ผิวสกปรก รูขุมขนอุดตัน และเกิดสิวได้ง่าย หากคุณมีปัญหาสิวหลังหรือสิวตัวอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้ปัญหาลุกลาม
วิธีดูแลง่ายๆ คือ เมื่อเหงื่อออกมาก ควรรีบอาบน้ำและเช็ดผิวให้แห้งสะอาด หากไม่สามารถอาบน้ำได้ ให้ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชู่เช็ดเหงื่อออก และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ หลีกเลี่ยงการทิ้งคราบเหงื่อไว้บนผิว
สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศและความอับชื้นได้ดี
เสื้อผ้าที่คับหรือกระชับตัวมากเกินไปเป็นอีกสาเหตุของ Bacne หรือสิวหลังและสิวตัว เคยสังเกตไหมว่า ชุดออกกำลังกายส่วนใหญ่ทอจากใยสังเคราะห์ ซึ่งยืดหยุ่นและกระชับผิว แต่ก็กักขังความชื้นและระบายอากาศได้น้อย การใส่เสื้อผ้าเหล่านี้เป็นประจำอาจทำให้ผิวเสียดสีกับเนื้อผ้า เกิดการระคายเคืองและรับเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย รูขุมขนอุดตันและนำไปสู่สิว
ดังนั้น ลองเปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าหลวมๆ ที่ระบายความชื้นได้ดี หรือเสื้อผ้าที่ผลิตจากผ้าฝ้ายและผ้าที่ดูดซับความชื้น จะช่วยป้องกันผิวจากเชื้อแบคทีเรียและลดการเกิดสิว
ลองงดใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
สิวขึ้นตัวจากการแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม คุณอาจคิดว่าการซักผ้าให้หอมสดชื่นเป็นสิ่งดี แต่สำหรับบางคนที่แพ้น้ำหอมหรือสารควอท (Quats) ที่ทำให้ผ้านุ่ม อาจทำให้ผิวคัน ระคายเคือง เกิดผดผื่น หรือสิวหลังและสิวตัวได้ ดงันั้นลองงดใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสักพักแล้วดูว่าสิวบนตัวลดลงไหม เพื่อให้แน่ใจว่าสิวไม่ได้เกิดจากการแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายและเส้นผมจากธรรมชาติ
หลายครั้งสิวหลังและสิวตัวเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมที่มีสารเคมีอันตราย ทำให้สารเคมีตกค้างบนผิว ผลิตภัณฑ์บางชนิดที่มีค่า pH ไม่เหมาะกับผิว (ค่า pH ที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 5.5-6) ทำให้ความสมดุลของผิวเสีย และชะล้างจุลินทรีย์ดี (Microbiome) บนผิว ก่อให้เกิดสิวและปัญหาผิวหนังอื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา ลองเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว มีค่า pH ที่เป็นกรด-เบสอ่อน ๆ หรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ จะช่วยให้ผิวของคุณสมดุลและสุขภาพดีขึ้น
ขณะอาบน้ำให้ขัดผิวเบา ๆ ด้วยผ้านุ่ม ๆ
หลังจากเผชิญมลภาวะในแต่ละวัน ผิวจะสะสมฝุ่น สิ่งสกปรก แบคทีเรีย ไขมันส่วนเกิน และคราบเหงื่อ แม้จะทำความสะอาดดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ทั่วถึงทุกซอกมุม ผิวก็อาจเป็นแหล่งเพาะสิวได้ ดังนั้นควรใช้แปรงขัดหลังหรือผ้าขัดผิวนุ่ม ๆ ช่วยขัดผิวในจุดที่มือไม่ถึง
หมั่นสครับผิวสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อผลัดเซลล์ผิวและสิ่งสกปรก
ร่างกายเราจะผลัดเซลล์ผิวใหม่ทุก 28 วัน ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วกลายเป็นขี้ไคลและสิ่งสกปรก หากไม่ผลัดออกอาจหมักหมม อุดตันรูขุมขน และเกิดสิวได้ โดยเฉพาะสิวที่แผ่นหลังหรือ Bacne ดังนั้นควรสครับผิวบริเวณแผ่นหลังอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อเคลียร์เซลล์ผิวตกค้างและป้องกันการอุดตันของสิ่งสกปรก เลือกใช้สบู่สครับสำหรับขัดผิวโดยตรง หรือสบู่ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยดักจับไขมันและสิ่งสกปรก ชำระล้างออกจากผิวได้ดี
เลือกใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก
ลองใช้สบู่ที่มีกรดซาลิไซลิกช่วยขจัดแบคทีเรียและคราบไขมันส่วนเกินที่ก่อให้เกิดสิวบนตัวและสิวหลัง เพราะ Salicylic Acid หรือ BHA มีความเป็นกรดอ่อน ๆ ที่แทรกซึมผิวหนังและรูขุมขนได้ดี ช่วยจับตัวกับไขมันส่วนเกินและเซลล์ผิวตกค้าง แล้วสลายสิ่งสกปรกออกจากผิว กรดซาลิไซลิกเป็นส่วนผสมสำคัญในสกินแคร์ เพราะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ยับยั้งการเกิดสิวใหม่ ลดการเกิดสิวอุดตัน เหมาะกับคนที่เป็นสิวและผิวแพ้ง่าย ต้องการกรดอ่อน ๆ มาช่วยขจัดแบคทีเรียและลดสิวอย่างอ่อนโยน
หลังฟอกสบู่ที่มีกรดซาลิไซลิกให้ทิ้งไว้ 3-4 นาที ก่อนล้างน้ำออก
วิธีใช้สบู่ที่มีกรดซาลิไซลิกเพื่อแก้ปัญหาสิวหลังและสิวตัวให้ได้ผล คือ หลังจากฟอกสบู่ให้ทั่วตัวแล้ว ทิ้งฟองสบู่ไว้บนผิวประมาณ 3-4 นาที (อาจร้องเพลงฆ่าเวลาไปสักเพลง) เพื่อให้กรดซาลิไซลิกมีเวลาแทรกซึมรูขุมขน ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และสลายสิ่งสกปรกตกค้าง วิธีนี้จะช่วยให้ผิวสะอาดมากขึ้น และลดการเกิดสิวใหม่
เสริมความแข็งแรงให้ผิวด้วย “โพรไบโอติกส์”
การเสียสมดุลของจุลินทรีย์บนผิวหนัง (Microbiome) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวหลังและสิวตัว บนผิวของเรามีจุลินทรีย์อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ แต่การอาบน้ำด้วยสบู่ที่มีค่า pH ไม่เหมาะสมอาจทำลายจุลินทรีย์ดี ส่งผลให้จุลินทรีย์ที่เหลือกลายเป็นเชื้อสิวได้
แหล่งที่มา : allaboutyou.co.th
