Homeไลฟสไตล์"โรคเจ้าหญิง" ภัยเงียบที่ทำให้คุณกลายเป็นพิษในทีมโดยไม่รู้ตัว

“โรคเจ้าหญิง” ภัยเงียบที่ทำให้คุณกลายเป็นพิษในทีมโดยไม่รู้ตัว

“โรคเจ้าหญิง” ภัยเงียบที่ทำให้คุณกลายเป็นพิษในทีมโดยไม่รู้ตัว

“โรคเจ้าหญิง” (Princess Syndrome) ไม่ใช่โรคทางกาย แต่เป็นคำเรียกพฤติกรรมและทัศนคติของคนที่มองว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง คาดหวังการปฏิบัติพิเศษ ไม่ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง พฤติกรรมแบบนี้เกิดได้กับทุกเพศ และอาจบั่นทอนบรรยากาศการทำงานและความสัมพันธ์ในองค์กรอย่างมาก”โรคเจ้าหญิง” (Princess Syndrome) คืออะไร?

โรคเจ้าหญิง

คำนี้ไม่ได้หมายถึงโรคจริง ๆ แต่ใช้เรียกเชิงเสียดสีถึงพฤติกรรมที่มองตัวเองเป็นศูนย์กลาง คาดหวังการดูแลเป็นพิเศษ และมักไม่ยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง โดยลักษณะเด่นในที่ทำงานมักเป็นแบบนี้

  • ไม่รับฟังผู้อื่น เชื่อว่าความคิดตัวเองถูกที่สุด ปิดกั้นข้อเสนอแนะ
  • ปัดความรับผิดชอบ โทษคนอื่นหรือสถานการณ์แทนที่จะยอมรับผิด
  • ทำงานไม่เต็มที่ หวังผลลัพธ์ดีโดยไม่ลงแรงเท่าคนอื่น
  • ขาดน้ำใจต่อเพื่อนร่วมงาน มองแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง
  • ชอบเรียกร้องความสนใจ ต้องการคำชมและการยอมรับตลอดเวลา
  • ไม่เคารพกฎระเบียบ คิดว่ากติกาใช้กับตัวเองไม่ได้

ผลกระทบของ “โรคเจ้าหญิง” ต่อการทำงาน

ต่อตัวเอง

  • หยุดพัฒนา: การไม่ยอมรับความผิดพลาด ทำให้ขาดโอกาสเรียนรู้และปรับปรุงตนเอง
  • พลาดโอกาสเติบโต: ผู้บริหารมองหาคนทำงานเป็นทีม มีความรับผิดชอบ และพร้อมเรียนรู้ ทัศนคติแบบนี้จึงยากจะได้งานสำคัญ
  • ถูกกันออกจากวง: เพื่อนร่วมงานเลี่ยงการร่วมงาน ทำให้สื่อสารและทำงานร่วมกันยากขึ้น

ต่อทีมและองค์กร

  • ประสิทธิภาพลดลง: การไม่ร่วมมือ โยนความผิด และขาดความรับผิดชอบ ทำให้โปรเจกต์ล่าช้า
  • บรรยากาศเป็นพิษ: เกิดความอิจฉา ความขัดแย้ง และบั่นทอนกำลังใจของทีม
  • กระทบภาพลักษณ์องค์กร: ทัศนคติที่ไม่เป็นมืออาชีพส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้าและพันธมิตร

ปรับทัศนคติ เพื่อก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ

การเปลี่ยนทัศนคติไม่ง่าย แต่เริ่มได้ทันทีถ้าคุณเปิดใจและอยากพัฒนาตัวเอง

  • ยอมรับความจริง: ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ความผิดพลาดคือโอกาสเรียนรู้และเติบโต
  • ฟังอย่างตั้งใจ: เปิดใจรับมุมมองใหม่ ๆ อาจช่วยให้พบวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่า
  • เคารพความเสมอภาค: ทุกคนในทีมมีคุณค่าและบทบาทสำคัญเท่าเทียมกัน
  • รับผิดชอบเต็มที่: ทำงานให้ดีที่สุด และถ้าพลาด ให้กล้ายอมรับและแก้ไขร่วมกัน
  • โฟกัสทีมเป็นหลัก: มองเป้าหมายของทีมและองค์กรเป็นหนึ่งเดียวกับตัวคุณ
  • เปลี่ยนมุมมอง: จาก “คนที่รอให้บริการ” เป็น “ผู้เล่นคนหนึ่ง” ที่ร่วมมือเพื่อความสำเร็จ

แหล่งที่มา : www.sanook.com

Must Read

spot_img